Subject | มหาอำนาจอุตสาหกรรมเออีซี 2557 |
Writer | saleadmin@vpsteelthai.com |
saleadmin@vpsteelthai.com | |
วันที่ | 2014-06-24 14:43:06.0 |
File |
![]() |
มหาอำนาจอุตสาหกรรมเออีซี 2557
รถยนต์ ไทยเป็นฐานอันดับ 1 ของเออีซี โดยในปี 2556 มีปริมาณการประกอบรถยนต์มากถึง 2.5 ล้านคัน คิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของยอดประกอบรถยนต์ทั้งหมดของเออีซี รองลงมา คือ อินโดนีเซีย ประมาณ 1.2 ล้านคัน และมาเลเซีย ประมาณ 6 แสนคัน จากการที่อินโดนีเซียมีประชากรมากถึง 240 ล้านคน อินโดนีเซียจะแซงหน้าไทยกลายเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเออีซีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าประกอบกับปัจจุบันมีการลงทุนสร้างฐานผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นมากในอินโดนีเซีย จะทำให้อินโดนีเซียแข่งขันกับไทยอย่างเข้มข้นเพื่อแย่งเป็นฐานผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดเออีซีในอีกประมาณ 5 - 10 ปีข้างหน้า รถจักรยานยนต์ อินโดนีเซียเป็นผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ใหญ่ที่สุดในเออีซีและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยในปี 2556 มียอดจำหน่ายมากถึง7.8 ล้านคัน นำหน้าประเทศอื่นๆ อย่างไม่เห็นฝุ่น รองลงมา คือ เวียดนามและไทย ซึ่งแย่งตำแหน่งอันดับ 2 ของเออีซี โดยมีปริมาณการผลิตใกล้เคียงกัน คือมากกว่า 3 ล้านคัน เล็กน้อย กลั่นน้ำมัน สิงคโปร์มีกำลังผลิตการกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดในเออีซี ขนาด 1,370,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ไทยมีกำลังผลิตการกลั่นน้ำมันรองลงมาอันดับ 2 ขนาด 1,072,000 บาร์เรล/วัน อันดับ 3 คือ อินโดนีเซีย กำลังประมาณ 1 ล้านบาร์เรล/วัน และมีแผนจะก่อสร้างโรงกลั่นแห่งใหม่ขนาด 3 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งจะทำให้แซงไทยขึ้นเป็นฐานกลั่นน้ำมันอันดับ 2 ของเออีซี สำหรับมาเลเซียเป็นอันดับ 4 กำลังผลิต 635,300 บาร์เรล/วัน แต่มีแผนลงทุนเพิ่มกำลังผลิตอีก 300,000 บาร์เรล/วัน รวมเป็น 935,300 บาร์เรล/วัน เหล็ก เดิมไทยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากมีโรงงานเหล็กขั้นกลางน้ำหลายแห่ง แต่เมื่อปลายปี 2556 อินโดนีเซียได้เปิดโรงถลุงเหล็กแบบครบวงจรตามมาตรฐานโลกแห่งแรกในเออีซี กำลังผลิต 3 ล้านตัน/ปี ทำให้แซงหน้าไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 สำหรับในอนาคตเมื่อโครงการโรงถลุงเหล็กเฟสแรกของกลุ่มฟอร์โมซาในเวียดนามก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2549 ขนาดกำลังผลิต 7 ล้านตัน/ปี จะทำให้เวียดนามแซงหน้าอินโดนีเซีย ขึ้นเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในเออีซี ยิ่งไปกว่านั้น หากโครงการโรงถลุงเหล็กของเวียดนามเปิดดำเนินการเต็มโครงการขนาดกำลังผลิต 22.5 ล้านตัน/ปี จะทำให้เวียดนามเป็นฐานผลิตเหล็กใหญ่อันดับที่ 11 ของโลก ปูนซีเมนต์ ปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ในเวียดนามได้เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในเออีซี โดยในปี 2556 มีปริมาณผลิตประมาณ 60 ล้านตัน จำแนกเป็นการจำหน่ายในประเทศ 47 ล้านตัน และส่งออก 13 ล้านตัน รองลงมา คืออินโดนีเซีย คาดว่าจะมีปริมาณการผลิตประมาณ 58ล้านตัน โดยเป็นการจำหน่ายในประเทศแทบทั้งหมด ส่งออกน้อยมาก ขณะที่ไทยตามมาอันดับ 3 คาดว่ามีปริมาณการผลิตประมาณ 45 ล้านตัน จำแนกเป็นจำหน่ายในประเทศ 35 ล้านตัน และส่งออก 10 ล้านตัน สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เดิมไทยเป็นฐานผลิตใหญ่ที่สุดในเออีซี มีการผลิตครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ แต่ปัจจุบันเวียดนามประสบผลสำเร็จในขั้นปลายน้ำ คือ เครื่องนุ่งห่ม โดยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก และเริ่มรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมขั้นต้นน้ำและกลางน้ำ คือ ผลิตเส้นใยสังเคราะห์ การปั่นด้ายและทอผ้า โดยในปี 2556 เวียดนามส่งออกสินค้าหมวดสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มประมาณ 6 แสนล้านบาท เปรียบเทียบกับไทยส่งออกประมาณ 2.3 แสนล้านบาท โทรศัพท์มือถือ เวียดนามเป็นฐานผลิตใหญ่ที่สุดในเออีซีและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในปี 2556 มีมูลค่าส่งออกมากถึง 6 แสนล้านบาท/ปีโดยเป็นฐานการผลิตสำคัญของซัมซุงและโนเกีย ยิ่งไปกว่านั้น มูลค่าการส่งออกของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอนาคต เนื่องจากมีโครงการลงทุนอีกหลายโครงการในเวียดนามที่อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงาน
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/asean-plus/20140121/557593/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E
|
|
|
|